Saturday, December 12, 2009

สาว…ทาง โทรศัพท์ และ การแยกทางกับน้ำปั่น…

สาวทาง โทรศัพท์ และ การแยกทางกับน้ำปั่น

                หลังจากที่ปฏิเสธ การรับสาย .สาวสวย แต่ไม่เคยพบหน้า เพราะได้ยินแต่เสียง ทางโทรศัพท์ มาหลายครั้ง ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าง ยังไม่สะดวก ติดประชุม ทั้งที่ 6 โมงเย็นแล้ว ไม่รู้ว่า ท่านจะติดประชุมอะไร กันนัก กันหนา เลยตัดสินใจว่าเราน่าจะคุยกับเธอสักครั้ง หลังจากเธอตามตื้ออยู่นาน ตั้งสติว่าจะไม่ใจอ่อนยอมเธอแน่

                ด้วยความที่ทุกครั้งที่เธอโทรมา ไม่ได้ตั้งใจฟังเธอสักเท่าไร พอถามว่าโทรจากไหน แค่เธอบอกว่าจาก….ผมก็อยากจะรีบหนีแล้ว ชื่ออะไรไม่น่าฟัง มีแต่เสียตังค์ แต่ครั้งนี้ได้ตั้งใจฟังเธอ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ก็พบว่า สิ่งที่ผมคิดว่าผมเข้าใจ แต่จริงแล้ว ผมแค่คิดว่าเข้าใจ แต่ผมไม่ใส่ใจและไม่สนใจเลย สิ่งที่เธอและคนในวงการของเธอใช้กันบ่อย คือ คุณแค่สละ เงินวันละ 45 บาท แล้วตามด้วย..น้อยมากนะ คะ สำหรับท่านเพื่อ อนาคตของ คนที่คุณรัก และตัวคุณเอง พอได้ฟังก็ปฏิเสธทันควัน ด้วยความที่เป็นคนไว..ไวแต่มือ……..

                ใช่เงิน 45 บาทต่อวัน นั้นไม่มากสำหรับผม แต่ผมก็ไม่อยากเสียเงิน ไปให้เค้าทุกวัน หรือ เดือนละ 1,350 บาท เพราะเท่าที่ฟังเค้าบอก ผมคิดว่า (แค่คิด) สามารถ ลงทุนได้เองซึ่งก็น่าจะได้ผลตอบแทนที่มากว่า ทางบริษัทของเธอ จะให้ผม เลยบอกว่า ผมทำผลตอบแทนได้มากว่า เธอก็เงียบ แล้วก็ต่อด้วย..เหตุผลของเธอ..และ บทพูดของเธอ ..ผมเลยตัดบทไปคุยเรื่องอื่นดีกว่า แต่น้องเค้า..ความพยายามไม่ลดละ ตื้อต่อ น้องถามว่า ปกติพี่ ดื่มกาแฟ วันละ กี่แก้ว ผมก็บอกว่าไม่ดื่ม ….แต่ดื่ม น้ำปั่นแทน พอพูดเสร็จ สมองก็บอกว่า น้ำปั่นที่ผมดื่ม แก้วละ 145 บาท ดื่ม สัปดาห์ ละ 3 แก้ว เป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ (3*145)4= 1,740 บาท 

และ 1 ปี จะเท่ากับ 20,880 บาท …. เห็นยอดเงินแล้ว ต้องขอบคุณ..ในความอดทนของเธอในการโทรตามตื้อทำให้ผมได้เห็นค่าใช้จ่ายที่บางครั้งผมคิดว่าไม่มาก แต่ทีจริงแล้วมากอยู่ เพราะเมื่อเทียบกับช่องทางของรายได้ กับ จำนวนรายได้ และเงินออมอันน้อยนิดของผม ไม่รวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (บัตรเครดิต)

                สรุปคือผมจะลดความสุขทางลิ้นลง โดยการไม่กินน้ำปั่น 3 วัน ต่อ สัปดาห์ แต่อาจจะมีทานบ้างเพราะเดียวจะไม่ได้เจอหน้าน้องคนขายน้ำปั่น เพราะน้องเค้าน่ารัก…..และสุดท้ายผมก็ต้องแพ้ลูกตื้อของเธอ  โดยต้องยอมเธอ โดย จ่ายเดือนละ 1,350 บาท แต่เงินที่จ่าย นั้นนำมาหักภาษีได้ 10% เท่ากับว่าเราจ่ายเดือนละ 1,080 บาท เท่ากับประหยัดไปอีก 135 บาท แล้วกว่าจะได้คืนก็อีกหลายปี แต่ถ้าเปรียบกับผม กินน้ำปั่น ก็คงจะดีกว่าเพราะเงินยังเหลือครบด้วย….

 

No comments: