Sunday, August 24, 2014

Investment Triangle (สามเหลี่ยมการลงทุน)


           จากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกี่ยวกับหุ้น  หรือ ด้านอื่น พอสรุปได้ว่า ส่วนใหญ่ ผมจะตั้งความของผลตอบแทนไว้สูง ซึ่งเข้าใจว่าทุกคน ก็คงหวังไว้เช่นเดียวกัน ...
           หลังจาก ได้ศึกษาหลักการลงทุนยิ่งศึกษา ยิ่งชอบในทฤษฎี การลงทุนไม่ว่าจะเป็น หลักการลงทุนทางวิชาการ หรือ ลึกเข้าไปถึงการวิเคราะห์ หลักทรัพย์ ทั้ง ทางเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน.. และศึกษาไปก็พบว่า ส่วนใหญ่ เราจะลงทุนโดยที่ไม่ได้ กำหนดอัตราผลตอบแทนที่ต้องการไว้ มีการลงทุนอยู่ไม่กี่อย่างที่เราจะรู้อัตราผลตอบแทนที่ แต่ ก็ไม่ใช่ผลตอบแทนที่แท้จริง..เพราะต้องเสียภาษี..อีก หรือ การลงทุนบางครั้งก็กำหนดอัตราผลการตอบแทนต่ำไปเมื่อเทียบกับความเสี่ยง.. แต่การลงทุนคือความหอมหวล.. เพราะจะอยู่คู่กับความโลภ และความกลัว.. ผมเลยมีโอกาสได้ทบทวนอีกครั้งจึงเป็นที่มาของ สามเหลี่ยมการลงทุน.. เพราะ การลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ต้องควบคุม ความโลภกับความกลัวให้ได้ด้วยครับ... จะเน้นหุ้นเป็นหลักครับ..
        Investment Triangle (สามเหลี่ยมการลงทุน)

      1. การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน.. เพื่อเสาะหาหุ้นที่ทำการลงทุน... เปรียบเหมื่อน จีบสาว ไม่แน่ใจว่าใครยังใช้นัด บอด อยู่หรือเปล่า เพราะ เท่าที่ผ่านด้วยตัวเองไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร ... ฉะนั้น การเลือกหุ้น ถ้าเลือกเองได้ ก็จะดีกว่าครับ ถ้าไม่อยากเสียเวลา ก็ใช้แม่สื่อ พ่อชัก ก็คือข้อมูลของนักวิเคราะห์ ใน SETTRADE ก็มีให้ แต่ต้องศึกษาข้อมูลที่ พ่อสื่อแม่ชักให้ด้วยนะครับ... หลังจากนั้น เราก็จะไปดำเนินการในขั้นตอนที่ สอง
     2. การวิเคาระห์ทางเทคนิค .. หลังจากเรารู้แล้วว่าเราจะลงทุนในหุ้นตัวไหน .. เราจะเริ่มใช้ข้อมูลทางเทคนิค มาช่วยวิเคาระห์ จะเข้าซื้อตอนไหน ดูว่า หุ้น ตัวนี้ Hot Hit มีเสี่ย มาหลุมล้อมหรือยัง.. โดยใช้กราฟเข้าช่วย... และยังทำให้เราทราบว่าขณะนี้ ราคามาไกลขนาดไหนแล้ว แนวรับ แนวต้าน อยู่ที่ใด และ มีโอกาสไปต่อได้หรือไม่ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย .. การตีกราฟ ราคา Price Pattern เมื่อเราได้จุดเข้า ซื้อ แล้ว เราอย่าลืม จุดถ่อยด้วย.. ถ้าไม่เป็นอย่างหวัง
    3. ความเสี่ยง... หัวข้อ ความเสี่ยง ขอเริ่มด้วยเรามีการจัดการด้าน Money Management อย่างไร ตั้ง limit loss ไว้เท่าไร เพราะ ถ้าลงทุนแล้วมีความเสี่ยงเยอะ เราอาจจะเปลี่ยนไปลงทุนตัวอื่นดีกว่า แต่ถ้ามองว่า ความเสี่ยงน้อยกว่า Return หรือ ความคาดหวัง (ระวังผิดหวังนะครับ) เราก็จะทำการแบ่งเงินลงทุนออกเป็น Step
       ความเสี่ยงพิจารณาอย่างไรดี อันนี้เราต้องลองตั้งสมมุติฐานเอง ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ นี้ขึ้น จะกระทบกับการลงทุนขนาดไหน เช่นกระทบต่อราคา แต่ไม่กระทบกับพื้นฐาน  เราอาจจะซื้อ Step ที่ สอง หรือ ไม่เอาถอยดีกว่า รอความเสี่ยงนั้น คลี่ยคลายดีกว่า ค่อยกลับมาใหม่.. ถ้าปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน..
    4. อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ... ที่จริงแล้วผมเขียนหัวข้อไว้เพื่อให้เป็น หมวดหมู่ แต่การลงทุนต้องคิดไปพร้อมๆๆ กันนะครับ เพราะ ไม่ใช่คิดทีละวัน บางครั้งไม่ทันกาล .. เพราะ แผนการลงทุนในเวลาหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับอีกเวลาหนึ่ง เมื่อทำทุกอย่างครบถ้วน แล้วต้องจัดเลย ครับ .. จะจัดน้อยจัดมาก อยู่ที่ ข้อมูลที่มีกับความมั่นใจในข้อมูลที่มีหรือประสบการณ์  และ อย่างลืมมาตรวจด้วยนะครับ อย่างเข้าข้างตัวเองนะครับ ผิดเป็นผิด ครับ.. เงิน เรา .. ถือว่าเสียค่าเล่าเรียน แต่อย่างเสียบ่อย..
      อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ ระวังให้ดีนะครับ มีหลายครั้งที่เราไม่ได้ ตั้งใจมาจากบ้าน .. ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน.. ไม่ผิดถ้าจะ let profit run แต่ ระวัง run จนเหนื่อยนะครับ... ส่วนตัว 8% แรก ต้องไม่ พลาดครับ.. มีหลายครั้ง ที่ ทำจาก 25% มาเหลือ 5% หรือ ถึง 0% ก็มี ... แต่ถ้าตัวไหนจะเป็น VI ก็แยก Port ไปเลยครับ จะได้ ไม่สับสน ส่วนตัว จะเรียก อัตราผลตอบแทนที่ต้องการว่า "K" ....  K ของผมคือ 8%.... ไม่มากไม่น้อย ขอปีละ 5 รอบ ครับ...
 
       

No comments: