กลับตัว กลับใจ 360

กลับตัว กลับใจ  360

        ผมอ่านเจอในหนังสือ ของคุณ เดวิด บุญทวี พูดถึงการให้คำปรึกษาว่าทำอย่างไร จะรวย คุณเดวิด ตอบให้ผู้มารับคำปรึกษา ว่า ทำตรงกันข้ามกับที่ทำอยู่ ผมก็เลย Got It!! ลองคิดดูสิว่าเราทำอะไรที่ผ่านมาทำให้เราไม่มีเงินเหลือ

1.   ซื้อหนังสือเกินความจำเป็น ผมมีหนังสือมากขนาดที่ว่าห้องสมุดยังอาย ถามว่าดีไหมหนังสือ ดี ครับ ดีตอนเราอ่าน ถ้าเราไม่อ่านก็เหมือนเอาเงินไปทิ้ง .. ก็อยากรวยเลย ซื้อหนังสือมาหาความรู้..แต่มากไปหน่อย ผมว่า.ถ้าหนังสือสอนให้เรา รวยได้ง่ายๆๆ ก็คงมีคนรวยเยอะแล้ว แต่ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ซื้อมาแล้วเราอ่านทำความเข้าใจกับสิ่งที่มีอยุ่ในหนังสือ และนำมา “ทำ” ได้ หรือเปล่า.. เพราะถ้าอ่านจบ ก็คือจบ หนังสือก็ถูกปิด และเก็บไว้ถูกทับ ด้วยหนังสือที่ เราไปซื้อมาใหม่.. ผม จึงพอสรุปได้ว่า หาหนังสือที่คิดว่าถูกกับ จริตเรามากที่สุด แล้ว อ่านพร้อมกับลงมือทำ,, ทุกคนต้องหาให้เจอว่า อะไรที่จะมากระตุ้นให้เราลงมือทำ … จริง… บางคนอาจจะไม่ต้องเสียเงินเลยก็ได้ เพราะของฟรี มีเต็มไปหมด ครับ.. แต่อาจจะต้องบาดเจ็บ แบบผมก่อน จึงค้นพบก็ได้ครับ….

สรุป ผมจะตัดขาดจากการเข้าร้านหนังสือ ชั่วคราว แล้วบันทึกรายจ่าย…

2.   ของกินเล็กๆๆ น้อยๆๆ ยุคข้าวยาก หมากแพง เงินหายากโคตรๆๆ…. ด้วยวัยอย่างผมซึ่งไม่มีความสามารถพิเศษอะไร… วิธีเดียวคือต้องตัด… ตัดขาดจาก น้ำหวาน กูลิโกะ ป๊อกกี้.. ของชอบสุดๆๆ  ยกน้ำดื่มเราก็ หลับตาจิตนาการ …  แล้วบันทึกรายจ่าย

3.   ของเล็กของน้อย แต่งบ้าน .. ซื้อของ โน้น นี่ เพื่อจะนำมาแต่งบ้าน แต่กลายเป็นซื้อมาเก็บไว้ในลิ้นชัก .. หาหนังสือบ้าน ที่แต่งบ้านแบบโล่งๆๆ มาดู แล้วก็จิตนาการ และเอาของไม่จำเป็นออกจากบ้าน เพราะของทุกอย่างที่มีอยู่ในบ้านเรานั้น มันคือเงินของเราทั้งนั้น…แล้วบันทึกรายจ่าย

4.   ล้างรถ เอง … ไม่จำเป็นต้องสะอาดมาก เหมือนร้าน แต่เราก็ภูมิใจ และประหยัดไป 130 บาท อย่าลืมครับ ว่าเงินเป็นของเรา เก็บไว้ซื้อ หุ้น SIRI ดีกว่าตอนนี้ ราคา 4 บาทนิดหน่อย..

5.   เที่ยวที่ชอบๆๆ จะชอบเที่ยวผับ เที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวผู้หญิง…หรือ เที่ยวผู้ชาย อันนี้ ก็ขอหยุดครับ …เพราะเงินหายทีละหลายพัน… ดู TV ผ่านดาวเทียมไปก่อน…

  จากที่ผมลองหยุดมาทั้งหมดเรื่องที่ชอบๆ เงินรายจ่ายลดลงอย่างเห็นได้ชัด… เหลือแต่ค่าอาหาร วันละ 100 บวกค่าน้ำมัน สามวัน 500… เท่ากับ หนึ่งอาทิตย์ผมใช้เงินประมาณ 1,900 …. ที่เหลือก็ Pay Debt … (ตั้งเป้า แล้วก็ทำ … เพราะทำ จึงสำเร็จ)…

เริ่มปลดหนี้ ก่อน รวยกว่า

  ผมใช้ คำ ดูเทห์ หน่อยจะได้ เริ่ม  สักที ช่วงนี้ ปีปลดหนี้ ผมขอใช้ web site ระบาย ของเสียของตัวเองออกมาให้หมด ก่อนนะครับ ขอพักเรื่องลงทุนไปก่อน แล้วกันครับ ลองมาอ่านอะไร ที่มันๆดูครับ รับรองว่าเรื่องจริงครับ  ผมได้มีโอกาสได้ ฟัง DVD ที่ ติดมากับหนังสือ เข็มทิศมั่งคั่ง .. โดยคุณ ฐิตินาถ ณ พัทลุง.. ต้องบอกว่า เยี่ยมครับ แค่ ฟังรอบเดียวนะครับ.. ลองไปหามาดูนะครับ มีขายที่ 7-11 ส่วนเนื้อหาในเล่มผมยังไม่ได้ อ่านแต่ ผมว่าน่าจะช่วยผมได้นะครับ .. เพราะผมเป็นคนคิดวน... โดยเฉพาะวนไปใน อ่างที่มีน้ำ... :-) เพราะ อ่านหนังสือ How to มาเยอะครับ แต่ไม่รอด.. ต้องมีอะไรในจิตใต้สำนึก.. .ใช่ครับ ผมอยากรวย... ไม่น่าเชื่อนะครับ เวลาเราจะปิ๊งอะไรได้ บางทีก็คิ๊ก เดียว แต่บางครั้งก็หาไม่เจอ เหมือนผม พยายามจะหาสาเหตุของการใช้เงิน เปลือง แต่คำว่าเปลืองคงน้อยไปคงใช้คำว่า โคตรเปลือง ดีกว่ามาตั้งนานไม่เจอ ได้ฟัง คุณ ฐิตินาถ รอบเดียว Got it.. ..หลายครั้งที่ผม ล้าง Port หุ้นเพื่อนำไปใช้หนี้ ..ทั้งที่อนาคต ของหุ้น (ห่าน) ก็ยังดีอยู่ ผมก็จับเชือด สะเลย เป็นยังงี้มา หลายรอบ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็เพราะแบงค์มาเตือน ว่าผ่อนช้าเกินไป...
    ผมจึงได้ข้อคิดจากการได้ฟังและย้อนลงไปในจิตใต้สำนึกของผม.. ผมอยากรวยเหมือนคนอื่น และผมก็ได้ เริ่มทำการ ซื้อทุกอย่าง ที่คิดว่าผมจะสามารถทำกำไรและรวยได้ โดยไม่มีการวางแผนการตลาด ไม่มีการ คิด Time of Value ของเงิน ใช้คำว่า Think อย่างเดียว ไม่ใช้สมอง ไตร่ตรอง ของบางอย่าง สภาพคล่องเป็นอย่างไร ... ทำให้การ หมุนรอบของเงิน เสียไปหมดไม่มีการควบคุม .. เงิน เลยไม่โต ผมเปรียบเทียบเงินคือ  Snow  Ball ซึ่ง Snow Ball ถ้ากลิ้งไปจะมีแต่โตขึ้น แต่ของผม กลิ้งแล้วหายไปเลยครับ คงเห็นภาพนะครับ อยู่ดี มี เงินก้อน อยู่ๆ ก็หายไป ...
    การลงทุนทุกอย่างต้องใช้เวลา มากน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ลงทุนอะไร ต้องเป็นเงินเย็น ครับ.. ข้อนี้ เคยเถียงอยู่ในใจ ตอนนี้ ยอมแล้วครับ.. เพราะเงินร้อน ไม่นาน Snow Ball ก็ละลาย ทั้งๆที่กำลัง กลิ้งอยู่   และอีกข้อคือ ความติดดี ชอบเปรียบเทียบ เช่น เรายังไม่รวยก็ บริจาก ให้ สะเกินตัว บ้าดี จนตัวเองได้หนี้      เพราะ ปมในใจนี่ละครับ .. ต้องหาให้เจอ ซื้อหนังสือเป็นบ้านเป็นหลัง ก็เพราะอยากรวย..... หือ หือ ..แต่ไม่ทำจะรวยไหม ละ
  จากนี้ ผมจะเริ่มปลดหนี้ ก่อน ให้หมดภายใน ปี 56 นี้ ... ผมจะนำขอที่ผมมีอยู่มา วางแผนการตลาด เพื่อให้ได้มูลค่า มากที่สุด โดยเวลาสั้นที่สุด .. เพราะของที่ผมมีเป็นของที่ผม รัก...

 "มึงคิดได้ยังงัยว่า วันพรุ่งนี้มึงจะมีเงิน..ถ้าวันนี้มีแล้วไม่เก็บ"... เป็นคำสอนที่ถูกถ่ายทอดมา จากอาจารย์ท่านหนึ่งมาสู่ท่านพี่ ท่านหนึง จนมาถึงผม วันนี้ ผมขอขอบคุณมากครับ...

2556 ปีแห่งการใช้หนี้

       ส่วนใหญ่เราจะได้ ยิน คำว่า Wealth management .. หรือหนังสือเกี่ยวกับทำอย่างไรให้ รวย รวย ใครอวยพรอะไร ก็ต้องการ ให้ รวย รวย แต่ เราไม่เคยจัดการตัวเองเรื่อง หนี้  รอความหวัง เดี๋ยวได้  OT มา หรือ Bonus มา จะทยอยใช้หนี้ แต่เราไม่เคยทำ Debt management ซึ่งครงกันข้าม กับ Wealth Management ,, ผมซึ่งถือว่า เป็นผู้เชียวชาญ ในการเป็น หนี้  ผมขอมอบตำแหน่งนี้ให้กับตัวเองเลย นะครับ ไม่ต้องไปสอบ เพราะ เป็นหนี้ บัตรเครดิต มา 6 ปี ไม่รวม ผ่อน รถ ผ่อน บ้าน ก็ต้องขอขอบคุณ สถานบันการเงินต่างๆ ที่ เห็นว่า ผมเป็นบุคคลที่ มีฐานะ การเงินที่ ดี จึงอนุมัติ สินเชื่อทุกอย่างให้ ทั้งๆ ที่ รายได้ ก็เท่าเดิม

   คราวนี้จะทำยังงัยละ มีช่องทางหมุนเงินเพิ่มเราก็เริ่ม หมุนเลย กดบัตร โน่น รูดบัตรนี้ ซื้อของที่ อยากได้ ผลลับคือ ติดบ่วงหนี้ (บ่วงกรรม ที่เราสร้างเอง) ไหว้พระสวดมนต์ อ้อนวอน ขอให้ ได้ โชค เป็นหนี้ ขนาดผม มีทางเดี๋ยวที่จะหลุด คือ ถูก รางวัลใหญ่ อย่างเดียวเลย บุญไม่ถึงครับ ถูกมาให้รู้ว่า ทำดี ได้ ดี … แต่สิ่งที่ ไม่ดีเกี่ยวกับการเงิน เยอะมากเลยครับ ผลเลย มี หนี้ จาก บัตรเครดิต และ Personal Loan ประมาณไม่น้อยไม่มากครับ 800,000 บาท ไม่รวมบ้านและรถยนต์  สำหรับใครเป็นหนี้ อย่าท้อนะครับ มาเริ่มต้นปี  ด้วยการ ตั้ง ปนิธาน ปี 2556 เป็นปี แห่งการชำระหนี้ …

  เริ่มต้น ผมจะไปเสาะหาสมบัติเก่าเก็บ ที่ เราไปซื้อ ไปแสวงหา ต้องใช้คำว่า แสวงหา เลยครับ เพราะ บางอย่างไม่ได้มาง่ายๆ เราก็ไปได้ มา…  และขอบางอย่างจะมีราคาในอนาคต แต่โชคร้ายที่ ใช้เงินอนาคต ซื้อมาด้วย เลย เหนื่อย เลย  พอหามาได้ ผมก็ทำ รายการ พร้อม ประเมินราคา ตลาดไว้ … คราวนี้ละ เราจะ ทุบตลาด โดยการขายทั้งหมด ขายทุกราคา … ฮิ ฮิ แต่ ไม่รู้จะมีใคร ซื้อ หรือเปล่า หุ หุ ของมากมาย หลายรายการ… ตอนขายนี่ ยากก็ตอนซื้อ เยอะเลยครับ แค่คิดก็มึน …

จากนั้นได้เงินมา ผมก็จะทำการ โอนเข้าบัญชี เจ้าหนี้ เลย ห้ามเก็บไว้กับตัวเด็ดขาด เป็นโรครั่ว (ใจรั่ว อยากได้อะไร ซื้อหมด) .. “คิกแล้วต้องทำ เพราะทำจึงสำเร็จ”

2556 ปีแห่งการ พลิกชีวิต ....

2556 วันเวลาไม่เคยรอใคร …ดอกเบี้ยก็ไม่มีวันหยุด โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงิน กู้ ..โต เลยต้นไปแล้ว … น้ำก็ไม่ได้รด โต เอา โตเอา.. ผ่านมาอีก หนึ่งปี กลับการรอคอยความหวัง ลมๆ แล้งๆ ว่า จะสามารถหาเงิน มา ทมหนี้ ได้ แต่ แล้วก็กลับมายืนที่ เดิม คือ ปากเหว .. ชีวิตกับความหวัง มีก็ดี นะครับ ถ้าหวัง ลมแล้ง ก็คง ไม่เปลี่ยน เหมือนเดิม … เว็บไซด์ www.lifeandinvestment.com จัดทำขึ้นเพื่อเอาไว้ เตือนตัวเอง โดยสามารถ เข้าถึงได้ ทุกที่ ในโลก ผมอยากรู้เหมือนกัน ว่า ตัวผมเองจะหลุดพ้น ได้ หรือไม่ .. นับวัน อายุก็มากขึ้น … แต่ความหวังไม่เคยน้อยลง แต่สิ่งที่ ยังไม่เคย ก้าวข้ามตัวเองไปได้ เลย คือ “ ทำ” อ่านมาก็เยอะ แต่การ “ทำ” มันช่างยากจัง ยากเพราะมัวแต่ตั้ง ท่า คิดโน่น คิดนี่ เอาให้ ดี รอให้ดี … เข้าขั้นติดดี หน้า บาง เลย ไม่ไปไหน สักที ..แต่ ปี 2013 ,,, 2556 เป็นงัยเป็นกัน ต้องหาเงิน มาทมหนี้ ให้ได้ เพราะ นับวัน หลุมหนี้ ชักเริ่มใหญ่ ขึ้น เรื่อย ๆ ตอนช่วงแรก ใช้ รถกระบะ ยังพอไหว ตอนนี้ ต้องใช้ รถดั้ม แล้ว … ใครบังเอิญ ผ่านมาอ่าน ก็เรียนรู้ไว้ นะครับ ..จะได้ไม่ผิดพลาด … พรือ หลอกเรียนแบบกัน ขอบอกว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปี ตั้งแต่ ปี 2550 มา ไม่เคยมีเวลาไหนที่ ไม่เสียค่า ตง (ดอกเบี้ย) เลย โชคดีที่ ทำงานดี มีเงินเดือน พอหมุนเวียนได้ .. ไม่งั้นคงต้อง ฟ้องล้มละลายตัวเอง… “ลุกขึ้นมาผู้กล้าเผชิญ ปัญหาต้องลุกขึ้นมา ต่อสู้กับปัญหา”


เพราะแสวงหา มีใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน …..

ขงเบ้ง….. หนังสือ Idea พลิกชีวิต เดวิด บุญทวี